แก้จมูกยังไง ให้ปัง!! ไม่พัง !!

แก้จมูกยังไง ให้ปัง!! ไม่พัง !!

การเสริมจมูกในปัจจุบันนี้ เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็มองว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ถ้าเราลองมองย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคนที่ทำศัลยกรรมยังไม่เป็นที่ยอมรับเหมือนในสมัยนี้ คนในยุคนั้นมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการเสริมจมูก การแก้จมูก น้อยมาก อาจเป็นเพราะด้วยเทคโนโลยี การสื่อสาร และการหาข้อมูลเป็นไปได้ยาก ต่างจากสมัยนี้ การหาข้อมูลเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว อยากรู้อะไร ก็ค้นหาใน Google ได้เลยมีข้อมูลมากมายเต็มไปหมด รวมถึงเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ล้ำหน้ากว่าเมื่อก่อนมาก

ถ้าพูดถึงการเสริมจมูก ก็อาจจะมีทั้งคนที่สมหวังและผิดหวัง เหมือนกับหัวเรื่องนี้ “แก้จมูกยังไงให้ปัง!! ไม่พัง!!” คนที่เสริมจมูกแล้วออกมาได้ดั่งใจที่คิดไว้ก็ถือว่าโชคดี เสริมแล้วเข้ากับรูปหน้า แต่เหรียญยังมี 2 ด้าน เมื่อมีสมหวังก็ต้องมีบางคนที่ผิดหวังเช่นกัน ซึ่งอาจจะเกิดจากปัญหาหลายๆอย่าง เช่น เครื่องมือที่ไม่ทันสมัย รวมถึงเทคนิคในการเสริมจมูกของแพทย์ที่อาจจะยังไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ

แต่ก่อนที่จะไปถึงนิยามคำว่า พัง เป็นยังไง เราลองมารู้จัก นิยามคำว่า ปัง กันก่อน

นิยามความปัง

1. เสริมแล้วออกมาสวยเข้ากับรูปหน้า

ความปังแรก คือดูจากองค์ประกอบโดยรวมให้มีความเหมาะสมกันทั้ง 3 ส่วน หน้าผาก จมูก และคาง

2. ตรงตามตำราโหงวเฮ้ง

ความปังนี้ คือเสริมจมูกแล้วมีลักษณะจมูกที่ดี เช่น จมูกจะต้องมีสันที่โดดเด่น สันจมูกต้องตรง เวลามองจากหน้าตรงแล้วต้องไม่เห็นรูจมูก

3. ปังไม่จำเป็นต้องเว่อ

เสริมจมูกแล้วให้ออกมาสวยรับกับรูปหน้าของเรา จมูกที่โด่งที่สุดไม่ได้แปลว่าจะดีที่สุดสำหรับเรา

4. เสริมแล้วไม่เห็นเป็นแท่ง แลดูเป็นธรรมชาติ (ใครๆมองแล้ว ไม่รู้ว่าเสริมจมูกมา)

บางครั้งอาจเกิดจากการเลือกซิลิโคนผิดขนาด ขนาดเล็กกว่าฐานของจมูก หรืออาจจะเหลาซิลิโคนเล็กเกินไปไม่เข้ากับฐาน ทำให้ดูขัดๆและเห็นเป็นแท่งได้

นิยามความพัง

1. เบี้ยว เอียง
ปัญหาของการเบี้ยว เอียง เกิดได้หลายสาเหตุ เช่น ฐานจมูกเดิมเราเอียงอยู่แล้ว วางซิลิโคนตอนเสริมเอียง เป็นต้น

2. รูจมูกไม่เท่ากัน
อะไรที่ทำให้รูจมูกไม่เท่ากันบ้าง เช่น การเสริมจมูกแล้วเอียง การตัดปีกจมูกไม่เท่ากัน เกิดจากการแก้จมูกเปิดแผลด้านเดิมซ้ำไปซ้ำมา เกิดจากการมีแผลติดเชื้อ แผลเย็บไม่ติด รูจมูกเดิมไม่เท่ากันอยู่แล้ว

3. แกนลอย / บิดที ขยับทั้งแท่ง
สาเหตุอาจจะเกิดจาก การเสริมซิลิโคนที่ไม่ได้อยู่ใต้เยื่อหุ้มกระดูก ซิลิโคนไม่ได้ครอบกับฐานจมูก

4. ปลายพุ่ง แบบพินอคคลิโอ 
การเลือกซิลิโคนให้เข้ากับรูปหน้าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเราเลือกแบบ พุ่งสูง โด่งเกินไป จมูกของเราอาจจะรับไม่ไหว อาจทำให้ทะลุได้

5. สันจมูกขึ้นไปเสมอหน้าผาก แบบนาเนียร์  
การเสริมแบบนี้คือ เสริมแล้วรอยต่อของซิลิโคนต่อกับหน้าผากเลย ถ้าเสริมไปปัญหาที่จะตามมาคือจะทำให้หน้าของเราดูแข็ง ดูดุ ไม่เป็นธรรมชาติ

เทคนิคการแก้จมูก มีอยู่ 2 แบบ คือ

1. แก้แบบ Semi-open (Bilateral rhinoplasty)

การแก้จมูกแบบ Semi-open เป็นการแก้ไขจมูกแบบเปิดแผลสองด้านของรูจมูกซ้ายและขวา ซึ่งการเสริมจมูกทั่วไปจะเปิดแค่ด้านเดียว ช่วยแก้ปัญหาการเบี้ยวเอียงได้ดี อีกทั้งลดปัญหารูจมูกไม่เท่ากันได้  

2. แก้แบบ Open (Open rhinoplasty)

การแก้จมูกแบบ Open หรือ การแก้จมูกแบบเปิด คือ เทคนิคที่ช่วยแก้ไขรูปร่างของจมูกให้สมบูรณ์ ด้วยการกรีดผ่าจมูกออกในแนวดิ่ง เปิดให้เห็นแกนจมูกข้างในได้อย่างชัดเจน ทำให้แพทย์สามารถวิเคราะห์แก้ไขปัญหา ได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็น “กระดูกอ่อน” เราจะมีกระดูกอ่อนตรงจมูกอยู่ 2 ฝั่ง ถ้าเราเสริมจมูกมาแล้วซิลิโคนอาจจะไปวางทับกระดูกอ่อนทำให้แยกออกจากกันทำให้จมูกของเราไม่โด่ง แบบนี้แพทย์ก็จะแก้ไขได้ หรือ “เลาะพังผืด” ที่สะสมมาจากการทำจมูกครั้งที่แล้ว อีกทั้งยังสามารถเสริมวัสดุพิเศษในการช่วยพยุงปลายให้พุ่งสวยได้มากขึ้นอีกด้วย  การเสริมจมูกด้วยวิธีนี้จึงช่วยแก้ปัญหาได้ครอบคลุมมากที่สุด ทั้งเคสที่มีเนื้อน้อย และเคสที่ปลายจมูกโต เป็นต้น

 

เคสแก้จมูกแบบ Open

 

การแก้จมูกต้องอาศัยทั้งแพทย์ที่มีประสบการณ์ และเทคนิคการแก้จมูกที่เหมาะสม การแก้จมูกแบบ Open เป็นเทคนิคที่ทางแบงคอก คลินิกแนะนำ เพราะจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด แพทย์จะสามารถเห็นโครงสร้างจมูกที่ถูกเสริมมาก่อนหน้าได้ชัดเจน ทำให้ได้ทรงจมูกตามที่ต้องการ

เรายึดมั่น ประสบการณ์ของทีมแพทย์ คุณภาพของสินค้า และ การให้บริการที่เป็นเลิศ แพทย์ทุกคนใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆของคนไข้ทุกราย ที่เข้ามาปรึกษา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-046-4236 หรือ แบงคอก คลินิก ทุกสาขา

อัลบัมรูปภาพ

บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง