ทำไมต้องทำศัลยกรรมที่ Bangkok Clinic ?

  • แพทย์มีความเชี่ยวชาญ และมากประสบการณ์ด้านการศัลยกรรมโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น เสริมจมูก เสริมหน้าผาก เสริมคาง
  • ประเมินรูปหน้าทุกมิติ เพื่อทำออกมาแล้วเหมาะสมกับคนไข้มากที่สุด
  • แพทย์ออกแบบและเหลาซิลิโคนเคสต่อเคส
  • ทีมแพทย์มือเบา บวมช้ำน้อย แผลหายไว เข้าที่เร็ว
  • ศัลยกรรมโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ดูเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา อยู่ได้นานตลอดชีวิต และไม่ต้องเสียเงินแก้ซ้ำๆ

เสริมจมูก

การเสริมจมูก เป็นหนึ่งในการทำศัลยกรรมที่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูสมบูรณ์โดดเด่นมากขึ้น และยังช่วยเพิ่มความมั่นใจ ก่อนเข้ารับการเสริมจมูกนั้นจำเป็นต้องมีความเข้าใจและศึกษาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสู่การศัลยกรรม รวมไปถึงจะต้องได้รับการผ่าตัดจากแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อให้ได้รูปทรงจมูกที่พึงพอใจ สวยงาม ที่สำคัญคือ ความปลอดภัย

เสริมจมูก คืออะไร?

การเสริมจมูก (Rhinoplasty) หมายถึง การผ่าตัดตกแต่งจมูกที่ไม่ได้รูปทรงที่สวยงาม ไม่มีมิติ ไม่ได้สัดส่วนที่เหมาะสม โดยตกแต่งจมูกที่เล็กแบน เชิด หรือสั้นให้โด่งขึ้น การผ่าตัดเสริมจมูกนอกจากทำเพื่อความสวยงามแล้ว ก็ยังทำเพื่อแก้ไขจมูกที่ผิดรูปร่าง หรือเสียหายจากอุบัติเหตุ หรือการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง หรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ และความบกพร่องที่มีมาแต่กำเนิดได้อีกด้วย โดยใช้วัสดุต่างๆ นำมาเสริม เช่น กระดูกอ่อน บริเวณต่างๆ หนังแท้ วัสดุสังเคราะห์ซิลิโคน กอร์เท็กซ์ เม็ดพอร์ เป็นต้น

โดยที่แบงคอกคลินิกเราเลือกใช้การเสริมด้วยวัสดุสังเคราะห์ซิลิโคนสำเร็จรูป Medical Grade USA ที่มีความยืดหยุ่น ปลอดภัย และได้มาตรฐาน

ซึ่งการเสริมจมูกนั้น มีหลายเทคนิคด้วยกัน

การผ่าตัดแบบปิด (Closed Rhinoplasty)

เป็นการผ่าตัดโดยแผลผ่าตัดจะอยู่ภายในจมูกข้างใดข้างหนึ่งของคนไข้ เพื่อทำการใส่วัสดุเสริมเข้าไปทางด้านใน ซึ่งเป็นที่นิยมมากเพราะจะทำให้มองไม่เห็นแผลผ่าตัด โดยขั้นตอนจะเป็นการผ่าตัดร่วมกับยาชา เป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้เวลาในการผ่าตัดอย่างน้อย 30-45 นาที

การผ่าตัดแบบเซมิโอเพ่น (Semi-Open)

เป็นการผ่าตัดโดยเปิดแผลทั้งสองด้านของรูจมูก ซึ่งโดยปกติแล้วจะเปิดเพียงข้างใดข้างหนึ่ง การผ่าตัดแบบเซมิโอเพ่น Semi-Open จึงเป็นที่นิยมมากขึ้นในรายที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง เนื่องจากการพักฟื้นที่น้อยกว่าและสามารถซ่อนรอยแผลผ่าตัดได้ง่ายกว่าการผ่าตัดแบบ Open ที่จะมีการกรีดผิวหนังบริเวณด้านหน้าของจมูก

โดยประโยชน์ของการผ่าตัด Semi-Open มีดังนี้

  • ลดโอกาสการเบี้ยวเอียงของซิลิโคนหลังผ่าตัด
  • ลดโอกาสความไม่เท่ากันของรูจมูก หรือช่วยแก้ไขให้ขนาดรูจมูกใกล้เคียงกันมากขึ้นได้
  • ช่วยให้การปรับแก้ในรายที่มีฐานจมูกเอียง ทำได้สะดวกขึ้น และเพิ่มโอกาสที่จะสมมาตรมากขึ้น

การผ่าตัดแบบเปิด (Open Rhinoplasty)

หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ผ่าตัดแบบโอเพ่น” เป็นการผ่าตัดแผลด้านในจมูกทั้งสองข้าง แต่มีแผลผ่าตัดด้านนอกแกนจมูกเพื่อเปิดให้แผลทั้งสองข้างถึงกันได้ แล้วแพทย์จะสามารถถลกหนังจมูกขึ้นดูโครงสร้างกระดูกอ่อนของจมูกได้ การผ่าตัดแบบเปิดนั้น แพทย์จะเห็นโครงจมูกได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถวิเคราะห์ และแก้ปัญหาอื่นๆ ของจมูกได้ด้วย

การเลือกวิธีผ่าตัดศัลยกรรมจมูกจะขึ้นอยู่กับความจำเป็น หรือความต้องการในทำศัลยกรรมจมูก หากต้องการทำเสริมจมูกเพียงอย่างเดียว การผ่าตัดจมูกแบบปิดก็สามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว อย่างไรก็ตาม หากต้องทำหลายๆ ส่วนพร้อมกัน ก็จำเป็นที่จะต้องทำการผ่าตัดจมูกแบบเปิด นั่นเอง

ฮัมพ์ (Hump) คืออะไร?

ฮัมพ์คือกระดูกบริเวณสันจมูกที่นูนออกมา อาจมีมากมีน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งบางคนชอบ บางคนไม่ชอบ เพราะอาจทาให้ใบหน้าดูดุ ดูไม่หวาน

แต่ในการเสริมจมูกแล้ว การตะไบฮัมพ์ ค่อนข้างมีความสำคัญ เนื่องจากการตะไบฮัมพ์เป็นการเตรียมความพร้อมที่ดีก่อนการวางซิลิโคน ป้องกันการเคลื่อนที่ของซิลิโคน และโอกาสการเบี้ยวเอียง เพราะเมื่อสันจมูกเราเรียบ จะสามารถวางซิลิโคนได้แนบชิดจมูกมากยิ่งขึ้น นั่นเอง

การเย็บอินเตอร์โดม (Interdome) คืออะไร ?

Inter (ระหว่าง) + dome ( กระดูก ) ความหมายตรงตัวเลย คือ การเย็บกระดูกอ่อนปลายจมูกเข้าหากัน เพื่อให้จมูกเรียวเล็กขึ้น แต่ไม่ใช่มีเพียงเท่านี้ เราต้องมาดูลักษณะของจมูกกันก่อน ว่าจมูกแบบไหนที่ต้องเย็บอินเตอร์โดม

สำหรับเคสที่มีปัญหาจมูกใหญ่ โครงสร้างใหญ่ จมูกชมพู่ เคสที่มีจมูกลักษณะนี้ จะมีปัญหา 3 สาเหตุหลัก ๆ คือ

  • กระดูกคู่หน้ารูปปีกนก บริเวณปลายจมูกใหญ่
  • ไขมันที่เกาะบริเวณปลายจมูก ไขมันที่ค่อนข้างหนา หรือผังผืด สำหรับเคสที่แก้มาแล้วหลายครั้ง ก็จะทำให้จมูกใหญ่
  • จมูกที่ไม่โด่ง จมูกเตี้ย สันเตี้ย เป็นต้น

เย็บอินเตอร์โดมช่วยเรื่องอะไร ?

ซึ่ง 3 ลักษณะนี้ จะมีการเย็บอินเตอร์โดม เป็นหนึ่งในขั้นตอนการทำ ให้จมูกเรียวสวยขึ้นเท่านั้น การเย็บอินเตอร์โดมจะช่วยแก้ไขเรื่องของกระดูกอ่อนที่ป่อง และอยู่ห่างกัน เย็บให้กระดูกอ่อนข้างซ้ายและข้างขวาเข้ามาชิดกันให้มากขึ้น จะช่วยให้ปลายจมูกของเรา ดูเรียวขึ้นมาได้

Vertical Lock คืออะไร?

เป็นเทคนิคการล็อคซิลิโคนให้ติดอยู่กับฐานจมูก เพื่อลดการเบี้ยว/เอียง/ซิลิโคนผิดรูป โดยใช้หลักการตามเทคนิคเฉพาะของคุณหมอภัทร์ และทีมแพทย์ศัลยกรรม Bangkok Clinic

หลักการเบื้องต้น เราจะนำซิลิโคนไปสอดใต้เยื่อกระดูก เมื่อหดรัดแกนมาแล้วซิลิโคนจะติดชิดกับฐานจมูกไม่ให้ลอย ซึ่งสามารถลดปัญหาในการเบี้ยว/เอียงได้อย่างชัดเจน

เสริมหน้าผาก

เสริมหน้าผาก ที่มีวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนั้นก็คือวิธี “การศัลยกรรมเสริมด้วยซิลิโคน” โดยการใช้ซิลิโคนเเผ่นที่ถูกหล่อขึ้นมาโดยการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเเละได้รับความนิยมอย่าง CT SCAN ในการเอ็กซเรย์เราจะสามารถได้เห็นภาพที่ถูกต้องแม่นยำตรงตามความต้องการของหน้าผากเเต่ละบุคคล (3D Customized Silicone Implant) หรือจะใช้ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป (Preformed Silicone) โดยลักษณะซิลิโคนถูกออกแบบมาสำเร็จรูปแล้วพร้อมที่จะใส่ได้ทันที ซึ่งมีหลายขนาดให้แพทย์ได้เลือกใช้ โดยที่จะมีความกว้างและยาวแตกต่างกันไป ผลลัพธ์จากการที่เราเสริมซิลิโคนนั้น หน้าผากจะดูโค้งมนเป็นธรรมชาติ มีความโหนกนูน เพิ่มมิติให้กับรูปหน้า ใบหน้าจะมีความอ่อนเยาว์ขึ้น โดยที่ซิลิโคนจะไม่มีการเปลี่ยนรูปเเละอยู่ได้ตลอดชีวิตถ้าเราไม่เปลี่ยนอันใหม่ซะก่อน

การเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน มี 2 แบบ

1. การเสริมหน้าผากโดยซิลิโคนแบบสำเร็จรูป (Preform Silicone)

ตัวซิลิโคนจะได้รับการหล่อขึ้นรูปไว้เเล้วตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยลักษณะของซิลิโคนถูกผลิตขึ้นเเบบสำเร็จรูป โดยคิดตามค่าเฉลี่ยจากบุคคลส่วนมาก ซึ่งมีหลายขนาดจะมีความกว้าง-ความยาวที่แตกต่างกันไป ก่อนที่จะทำการเสริมซิลิโคนนั้นเเพทย์จะทำการวิเคราะห์ซิลิโคนที่ใกล้เคียงกับฐานของหน้าผากเราโดยยึดหลักความพึ่งพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ เพราะมันจะอยู่กับเขาตลอดชีวิต เเละจากนั้นแพทย์จะใช้เทคนิคทำการตกเเต่งซิลิโคนเพื่อให้เหมาะสมกับโครงสร้างหน้าผากของเเต่ละบุคคล ซึ่งซิลิโคนแบบสำเร็จรูปจะมี 3 ขนาด ดังนี้

  • Size S ความหนา 4.5 มิลลิเมตร
  • Size M ความหนา 6.0 มิลลิเมตร
  • Size L ความหนา 7.0 มิลลิเมตร

2. เสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนเฉพาะบุคคล (3D Customized Silicone Implant)

ตัวซิลิโคนจะได้รับการออกแบบเพื่อให้เข้ากับสรีระหน้าผากของเเต่ละบุคคล ด้วยการใช้เทคโนโลยี CT SCAN เข้ามาช่วย ที่มีความสามารถในการวิเคราะห์และตรวจสอบได้อย่างถูกต้องเเละเเม่นยำ โดยซิลิโคนจะถูกออกเเบบมาจากโครงสร้างหน้าผากโดยตรงของบุคคลนั้น อีกทั้งยังสามารถกำหนดความโค้งนูนของซิลิโคนให้ได้ตามสัดส่วนที่เหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคคล

เสริมคาง

การเสริมคาง เป็นการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะทำให้ใบหน้ามีมิติ บางคนจะมีปัญหาคางหุบเข้าไปด้านหลัง คางสั้น คางถอย ดังนั้น การเสริมคางจะช่วยให้ใบหน้าได้รูปมากขึ้น ซึ่งสามารถทำได้โดยการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็ม และเสริมด้วยซิลิโคน นั้นต่างมีข้อดี-ข้อเสีย ต่างกันไป สำหรับท่านไหนที่อยากได้ผลลัพธ์ที่อยู่ถาวร ไม่ต้องฉีดเติมบ่อยๆ ก็คงจะเลือกเป็นการเสริมด้วยซิลิโคนไปเลยดีกว่า

ปัญหาคางที่พบเจอได้ทั่วไป มีลักษณะดังนี้

1. คางตัด : ทำให้ใบหน้าดูสั้น แข็ง และดุ
2. คางสั้น : ทำให้ใบหน้าดูกลม ไร้มิติ
3. คางถอย : ทำให้ใบหน้าดูกลม อ้วน เหมือนคนมีเหนียง
4. คางย้อยจากการฉีดซิลิโคนเหลว : ทำให้คางไม่ได้รูป เป็นก้อน รูปหน้าไม่ได้สัดส่วน

ทำไมต้องเสริมคางที่ Bangkok Clinic?

  • แพทย์เป็นผู้เชี่ยวชาญ และมากประสบการณ์ด้านการศัลยกรรมโดยตรง
  • ประเมินรูปหน้าทุกมิติ เลือกซิลิโคนที่ดีที่สุดให้กับคนไข้ โดยยึดความต้องการของคนไข้เป็นหลัก
  • เชี่ยวชาญด้านการเสริมคางแบบเปิดแผลในช่องปาก ซ่อนแผลเป็น
  • แพทย์เหลาซิลิโคนคางให้พอดีกับใบหน้ามากที่สุด เหลาใหม่เคสต่อเคส
  • บวมช้ำน้อย แผลหายไว เข้าที่เร็ว
  • คางดูเนียน เป็นธรรมชาติ ไม่ยาวจนเกินไป

ผ่าตัดแบบไหน?

คุณหมอของเราเลือกใช้เทคนิคการผ่าตัดเสริมคางแบบแผลในช่องปาก เป็นการซ่อนแผลเป็นไว้ด้านในปาก แผลหายเร็วกว่าแผลด้านนอก และทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องแผลนูน คีลอยด์ รอยแผลเป็นต่างๆ ซึ่งหากแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญจะไม่สามารถวางซิลิโคนได้ถูกตำแหน่ง

เสริมคางพักฟื้น กี่วัน ?

การเสริมคางใช้เวลาพักฟื้นเพียง 1-2 สัปดาห์ และจะค่อยๆเข้าที่ เห็นทรงชัดเจนหลังยุบบวมในประมาณ 1-3 เดือน

การเสริมคาง สามารถทำได้ทั้งวิธีฉีดฟิลเลอร์คาง และเสริมคางด้วยซิลิโคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละเคสครับ ถ้าต้องการเสริมคางให้ยาวเกิน 1 ซม.จากเดิม ก็จะเหมาะกับการผ่าตัดมากกว่า ส่วนผู้ที่ไม่อยากเสริมถาวร กลัวการผ่าตัด อยากปรับรูปทรงเล็กน้อย ก็สามารถใช้ฟิลเลอร์คางได้ ส่วนมากใช้ฟิลเลอร์ 1 CC ก็เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนแล้วครับ
แบงคอกคลินิก ยินดีให้คำปรึกษาฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย ดูสาขาทั้งหมด