5 กลโกง ของการขายโบฯ ที่ไม่เคยมีใครบอกคุณ

5 กลโกง ของการขายโบฯ ที่ไม่เคยมีใครบอกคุณ

คุณก็มีปัญหาแบบนี้ใช่หรือไม่? ยิ้มแต่ละทีตีนกา...มาเต็ม ใบหน้าเริ่มมีรอยย่น ระหว่างคิ้วมีร่องที่เห็นได้ชัด และอีกมากมาย ใครๆก็บอกคุณว่า ถ้าเจอปัญหาแบบนี้ การฉีดโบฯ สามารถช่วยคุณได้ แต่ตอนนี้คลินิกไหนๆก็มีขายโบฯกันทั้งนั้น มีตั้งแต่ราคาหลักร้อย หลักพัน ไปยันหลักหมื่น แล้วมันต่างกันอย่างไร ?

บางที่ขายราคาถูกมากๆ (นำรูปโปรโมทของคนอื่นมาใช้ ไม่ได้คิดเองหรือเรียกง่ายๆว่า “ยืมเขามา”)

บางที่ก็ให้จำนวนโดสมาก เช่น จะฉีดหางตา ใช้ประมาณ 5-15 ยูนิต แต่กลับโฆษณาว่าฉีดหางตาไม่อันจัดเต็ม 50 ยูนิต เป็นต้น ซึ่งเกินความเป็นจริง

บางที่โฆษณาว่าฉีดได้แบบไม่อั้น ในระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งปกติแล้ว โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) นั้น จะออกฤทธิ์ได้ 4-6 เดือน ยังไงคุณก็ฉีดได้ครั้งเดียวอยู่แล้วในระยะเวลาดังกล่าว

บางที่ไม่มีหน้าร้าน (หมอกระเป๋า) อันนี้น่ากลัวมากค่ะ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเขาเป็นหมอจริงๆ หรือเปล่า หรือเป็นใครไม่รู้มาฉีดให้เรา 

 

Botulinum Toxin ได้มาจากไหน?

Botulinum Toxin ก็คือ ชีวพิษโบทูลินั่ม (สารพิษที่ยังมีชีวิตอยู่) แต่จะถูกแยกระหว่างสารพิษ และ โปรตีนออกจากกัน ซึ่งการแยกเอาสารพิษออกเราเรียกว่า ความบริสุทธิ์ (Pure) ซึ่งยิ่งบริสุทธิ์มากเท่าไร ราคาต้นทุนก็จะแพงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

 

เรามาดูกันดีกว่า 5 กลโกง นั้นมีอะไรกันบ้าง ?

กลโกงที่ 1 Botulinum Toxin มีความบริสุทธิ์น้อย (มีสารพิษสูง) 

วิธีนี้ คือ การใช้ Botulinum Toxin ที่ไม่ได้คุณภาพ เพราะต้องแยกระหว่าง พิษ และ โปรตีน ออกจากกัน ซึ่งทำได้ยาก ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการแยก จึงทำให้มีต้นทุนที่สูง การที่เราพบว่ามีการขายโบฯราคาถูกในท้องตลาดนั้น อาจจะการนำเอา Botulinum Toxin ที่ไม่บริสุทธิ์มาขาย เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ต่ำและไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งถ้าคุณฉีดเข้าไปอาจจะเป็นการได้รับสารพิษเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการดื้อยา หากฉีดโบทูลินั่มฯแล้วไม่เห็นผล ต้องหยุดพัก 2-5 ปี บางรายอาจฉีดไม่ได้อีกเลยตลอดชีวิต

 

กลโกงที่ 2 การผสมน้ำเกลือเข้าไปในขวดที่มาเกินที่กำหนด

วิธีนี้คือการผสมใช้น้ำเกลือเจือจาง Botulinum Toxin มากเกินกว่าค่าที่กำหนดไว้ จึงทำให้ผสมได้ปริมาณที่มากกว่าปกติ มาตรฐานทั่วไป 100 ยูนิต จะผสมน้ำเกลือ 2.5 ซีซี กลโกงบางที่เขาจะใส่น้ำเกลือเข้าไปถึง 2 เท่า จึงทำให้ขายได้ในราคาถูกได้ เพราะมี Botulinum Toxin เหลืออยู่น้อย ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำเกลือ ลูกค้าจะรู้สึกว่าซื้อได้เยอะกว่าที่อื่นในราคาที่เท่ากัน ส่งผลให้ฉีดแล้วไม่เห็นผล มีอาการบวมน้ำเกลือ ช้ำนานกว่าปกติ รูปหน้าไม่เรียวตามแบบที่ต้องการ โดยปกติ Botulinum Toxin ที่ดีจะต้องออกฤทธิ์ภายใน 24 ชั่วโมง 

 

กลโกงที่ 3 ใช้โบทูลินั่มฯ ปลอม

วิธีนี้ทางสถานบริการจะทำการสั่งซื้อโบทูลินั่มฯ มาจากประเทศประเทศจีนแล้วมาทำฉลากปลอม กล่องปลอมขึ้นมาใหม่ ลูกค้าจะเช็คข้อมูลค่อยข้างยาก เพราะฉลากและกล่องจะคล้ายกันมาก ถ้ามองด้วยตาเปล่าอาจจะแยกไม่ออก ต้องใช้การแกนบาร์โค้ด เพื่อตรวจเช็คข้อมูลที่ถูกต้อง

 

กลโกงที่ 4 การใช้ของหิ้ว

วิธีนี้จะช่วยให้ได้ Botulinum Toxin ที่มีราคาถูก เพราะไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง แต่ต้องคำนึงถึงการรักษาอุณหภูมิของการเก็บรักษาด้วยนะคะ เพราะควรเก็บอยู่ในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียสตลอดเวลา เพราะถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 8 องศาเซลเซียส อาจจะทำให้ชีวโมเลกุลของ Botulinum Toxin ค่อยๆเสื่อมสภาพลงหรือหนักกว่านั้นคือใช้แล้วไม่เห็นผลอะไรเลย การหิ้วมาจากต่างประเทศเป็นไปได้ยากที่จะรักษาอุณหภูมิให้คงที่ตลอดเวลาการเดินทางได้ค่ะ

 

กลโกงที่ 5 การใช้หน่วย Unit ที่ไม่ใช่มาตรฐาน USA ที่ใช้ในไทย

วิธีการนี้ก็คือการใช้ Botulinum Toxin ของอังกฤษ เช่น Dysport โดยปริมาณที่แจ้งไว้ที่ข้างกล่องจะแจ้งว่า 500 ยูนิต (ตามหน่วยของอังกฤษ) เมื่อเทียบกับ Botulinum Toxin ที่นิยมใช้กันในประเทศไทย จะเทียบเท่ากับปริมาณ 100 ยูนิต เท่านั้น (ตามหน่วยของอเมริกา) ดังนั้นก็แสดงให้เห็นได้ว่า Botulinum Toxin (Dysport) 1 ขวด จะสามารถแบ่งขายได้ 5 ครั้ง แบบนี้กำไรเห็นๆ เลยใช่ไหมคะ


ถึงแม้ว่าธุรกิจเสริมความงามจะมีมากมายในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้ง่ายนักที่จะเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้แพทย์ที่มีประสบการณ์สูง โดยแพทย์เหล่านั้นต้องเข้าใจตัวยาที่ใช้ รวมถึงปริมาณยาที่เหมาะสมในการรักษากับคนไข้แต่ละคน Bangkok Clinic เรายึดมั่นเสมอมา เรื่องประสบการณ์ของทีมแพทย์ คุณภาพของสินค้า และ การให้บริการที่เป็นเลิศ แพทย์ทุกคนใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆของคนไข้ทุกราย ที่เข้ามาปรึกษา

บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง