คุณรู้จักโบทูลินั่ม ท็อกซิน ดีแค่ไหน?

ปัจจุบันมีหลายคนที่กำลังประสบปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบาน กรามเยอะ ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในใบหน้าของตนเองนั้น คุณทราบไหมว่ามีวิธีการแก้ไขได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำเลเซอร์ยกกระชับ การฉีดปรับรูปหน้า หรือการผ่าตัดซึ่งต้องเจ็บตัวและใช้เวลาในการพักฟื้นค่อนข้างนาน แต่วิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นก็คือ “การฉีดโบฯ” ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้มากมาย ตอบโจทย์ผู้ที่รักความสวยรักงามอย่างทันใจกันเลยทีเดียว เรามาทำความรู้จัก “โบทูลินั่ม ท็อกซิน” กันเลยดีกว่าค่ะ

โบทูลินั่ม ท็อกซิน คืออะไร?

โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) เป็นชื่อทางการค้าของสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สร้างจากแบคทีเรีย ชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษแก่มนุษย์

โบฯออกฤทธิ์อย่างไร?

โบฯออกฤทธิ์โดยการไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ กล้ามเนื้อจึงคลายตัว หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเกิดอัมพาตของกล้ามเนื้อเล็กๆ โดยจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 วัน และเห็นผลสูงสุดในเวลาประมาณ 7-14 วัน

แล้วแพทย์เอา "สารพิษ" นี้มาใช้ทำไม?

แพทย์ทราบมานานหลายสิบปีแล้วว่าหากฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อในปริมาณน้อยๆ โบทูลินั่ม ท็อกซินจะทำให้กล้ามเนื้อ "คลายตัว"  ดังนั้นในยุคแรกๆ จักษุแพทย์จึงนำโบทูลินั่ม ท็อกซิน มาฉีดรักษาโรคตาเหล่ ตาเข และโดยบังเอิญจากการฉีดรักษาในบริเวณรอบดวงตานี้เอง ก็ทำให้แพทย์พบว่าริ้วรอยบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว และรอบดวงตาดีขึ้นด้วย

ในยุคต่อมาจึงมีการฉีดโบฯ เพื่อประโยชน์ในด้านความสวยงามตามมาอย่างแพร่หลาย และมีเทคนิควิธีการที่ต่างๆกันออกไป มีการนำมาฉีดเพื่อทำให้หน้าเรียวลง ยกกระชับผิวหนัง ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ตลอดจนรักษาอาการปวดศีรษะ ปวดเกร็งต้นคอ และอีกหลายกรณี

Q: ผลของการฉีดโบฯอยู่นานแค่ไหน?
A: โดยทั่วไปผลของการฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 3-8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับว่าฉีดรักษาอาการอะไร ฉีดบริเวณใด ฉีดเป็นครั้งแรกหรือเป็นการฉีดซ้ำด้วยค่ะ ผู้รับการรักษาอายุเท่าไหร่ ซึ่งการที่ผลการรักษาอยู่ไม่ถาวรนั้น ที่จริงอาจนับได้ว่าเป็นข้อดี เพราะหากผลที่ได้รับไม่เป็นที่น่าพอใจ ในที่สุดก็จะค่อยๆ หายไปเองได้ ข้อเสียก็คือสิ้นเปลือง เพราะหากได้ผลดี ถูกใจก็ต้องฉีดซ้ำเรื่อยๆ

Q: ฉีดโบฯ อันตรายหรือไม่?
A: จากการรวบรวมผู้ป่วยที่ได้รับการฉีด โบทูลินั่ม ท็อกซิน จำนวนมากในต่างประเทศ พบว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิตค่ะ เมื่อใช้โดยผู้เชี่ยวชาญและใช้ฉีดเพื่อความสวยงาม ผลข้างเคียงส่วนมากที่เกิดขึ้นมักเป็นแบบเฉพาะที่ เช่น หนังตาตก กลืนอาหารลำบาก หน้าไม่สมมาตร หรือจุดเลือดออกในบริเวณที่ฉีดค่ะ ซึ่งเกิดได้แม้ในมือผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นแพทย์ และผู้ทำการรักษาจึงควรคุยกันโดยละเอียดก่อนการฉีดทุกครั้ง

Q: เมื่อเกิดผลข้างเคียงแล้วจะทำอย่างไร?
A: ดังที่ได้กล่าวแล้วตอนต้นว่าผลจากการฉีด โบทูลินั่ม ท็อกซิน นั้นจะค่อยๆ หมดไปเองภายในเวลาเป็นเดือนค่ะ ดังนั้นผู้รับการรักษาจึงใจเย็นๆ และค่อยๆรอให้ผลของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน หมดไปเองก็ได้ ส่วนในกรณีที่เกิดหนังตาตกนั้น ผู้รับการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาเป็นกรณีไป

จุดไหนใช้โบฯกี่ยูนิตบ้าง?

รอยย่นหน้าผาก	ประมาณ 10 - 30 ยูนิต
ริ้วรอยหางตา	ประมาณข้างละ 5 - 15 ยูนิต
ลดกราม	ประมาณข้างละ 20 - 30 ยูนิต
ริ้วรอยระหว่างคิ้ว	ประมาณ 10 - 15 ยูนิต
ลิฟหน้า	ประมาณ 30 - 40 ยูนิต
ลดปีกจมูก	ประมาณ ข้างละ 5 - 10 ยูนิต
ยกคิ้ว	ประมาณ ข้างละ 2 - 5 ยูนิต
รอยย่นจมูก	ประมาณ ข้างละ 5 - 15 ยูนิต

วิธีการดูแลตัวเองหลังการฉีดโบฯ

หลังการฉีดโบฯ ไม่ควรนอนราบในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรก และควรบริหารกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดบ่อยๆ อีกทั้งภายในระยะ 2 สัปดาห์แรกควรหลีกเลี่ยงความร้อนจากการอาบน้ำอุ่น ไดร์เป่าผมและงดดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ไม่เต็มที่

ที่ แบงคอก คลินิก เราใช้โบทูลินั่ม ท็อกซิน ของแท้ ยี่ห้อ Botulax ประเทศเกาหลี ซึ่งมีความบริสุทธิ์สูง นำเข้าอย่างถูกกฎหมาย ผ่าน อ.ย.ไทย เห็นผลชัดเจนภายใน 7-14 วัน ดังนั้นผู้ที่รักสวยรักงามจำเป็นต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับตนเองและพิจารณาสถานที่ที่จะทำ เพื่อความปลอดภัยและความงามที่คุ้มค่าของตนเองด้วยนะคะ

Bangkok Clinic Revolution เรายึดมั่นในประสบการณ์ของทีมแพทย์ คุณภาพของสินค้า และ การให้บริการที่เป็นเลิศ ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆของคนไข้ทุกราย ยินดีให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ จนมีถึง 16 สาขา และก้าวสู่ปีที่ 10 “ปฏิวัติความงามครั้งใหม่ ทั้งภายในและภายนอก”